002 กิโลวัตต์/ ชั่วโมงเลยล่ะ 5. อาบน้ำเย็นเแทนน้ำอุ่น ต้องยอมรับว่าการอาบน้ำอุ่น ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้มากจริง ๆ หลายคนก็เลยติดใจ ต้องอาบน้ำอุ่นทุกครั้ง แม้วันนั้นอากาศจะร้อนมากแค่ไหนก็ตาม แต่รู้ไหมคะว่า แค่คุณเลี่ยงการใช้น้ำอุ่น หรือแค่ลดอุณหภูมิน้ำอุณให้เย็นลงสักนิด ก็สามารถประหยัดไฟได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ที่สำคัญหากเปลี่ยนใจมาอาบน้ำเย็นได้ ผิวพรรณของคุณก็จะดูชุ่มชื้นขึ้น ร่างกายก็จะได้ความสดชื่นอีกด้วยนะ 6. ติดม่านป้องกันความร้อน โชคดีที่เรายังมีม่านหน้าต่าง สำหรับกันแสงแดด และความร้อนเข้าบ้านอยู่บ้าง เวลากลางวันบ้านจะได้ไม่โดนแดดส่องมากจนเกินไป จนทำให้บริเวณภายในบ้านสะสมความร้อนระอุเอาไว้ ลดการทำงานของแอร์ลงไปได้อีก นอกจากนี้วันไหนที่อากาศค่อนข้างหนาวเย็น ก็สามารถรูดม่านมาเปิดลมเย็น ๆ จากภายนอกได้ด้วย อ้อ! รวมทั้งวันไหนที่คุณต้องการแสงสว่างในบ้านมาก ๆ เพียงแค่เปิดม่าน ปรับแสงให้ส่องเข้ามาในบ้านของเรามากขึ้น ก็ช่วยให้เราไม่ต้องเปิดโคมไฟในบ้านอีกด้วยจ้า 7. ซักผ้าด้วยระบบน้ำเย็น เครื่องซักผ้าส่วนใหญ่มักจะมีระบบซักด้วยน้ำร้อนพ่วงมาด้วย เพื่อการันตีว่าการซักผ้าของเราจะสะอาด ปราศจากเชื้อโรคได้มากที่สุด แต่ถ้าคุณไม่ได้ไปคลุกฝุ่น ลุยโคลนที่ไหน ก็ใช้น้ำยาซักผ้าธรรมดา และซักผ้าด้วยระบบน้ำอุณหภูมิปกติก็เพียงพอให้ผ้าสะอาดหมดจดแล้วล่ะ แต่ถ้าอยากฆ่าเชื้อโรคแนะนำให้เทน้ำส้มสายชูลงไปผสมกับน้ำยาซักผ้าสัก 1 ถ้วยตวง รับรองว่าเชื้อโรคสลายตัวแน่ ๆ 8.

Tiktok

วิธี การ ประหยัด ไฟฟ้า ใน บ้าน word วิธี การ ประหยัด พลังงาน ไฟฟ้า ใน ชีวิต ประ จํา วัน

มาหาคำตอบไปพร้อมกัน 1. เปิดหน้าต่างรับลมและแสงธรรมชาติ การทำงานอยู่ที่บ้านเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญก็คือ เรื่องของแสงสว่างต้องเพียงพอ แต่จะให้เปิดไฟตลอดเวลาก็คงเปลืองไฟแย่ วิธีแรกที่ "การไฟฟ้า" แนะนำก็คือให้คุณเปิดม่านและเปิดหน้าต่างให้แสงสว่างและลมธรรมชาติผ่านเข้ามาในบ้าน ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการประหยัดพลังงานในช่วงที่มี การ Work from home ที่สำคัญการเปิดให้อากาศถ่ายเทยังจะช่วยลดความเสี่ยงของ COVID-19 ได้อีกด้วย 2. เลือกใช้หลอด LED สว่างแถมประหยัดไฟ หลายคนคงรู้ว่าหลอดไฟแบบเดิม ไม่ว่าจะเป็นหลอดไส้หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ก็ตาม เมื่อนำมาใช้งานพบว่ากินไฟมากกว่าหลอด LED หากเทียบจากจำนวนหลอดที่เท่ากัน ดังนั้น หากเปลี่ยนมาใช้หลอด LED จะสามารถให้ความสว่างได้มากกว่า และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน 3. ตั้ง Sleep Mod ในแล็ปท็อปเสมอ การ Work from home คนส่วนใหญ่นิยมใช้แล็ปท็อป ซึ่งการทำงานบนแล็ปท็อปก็กินไฟพอสมควร แต่มีวิธีช่วยประหยัดไฟคือ ให้ตั้ง Sleep Mode เอาไว้เสมอ เมื่อไม่ได้ใช้หน้าจอก็จะปิดอัตโนมัติ อีกทั้งควรปรับแสงจอไม่สว่างเกินไป ก็ช่วยประหยัดไฟได้ 4. ปิด Gadget ไร้สาย เมื่อไร้การเชื่อมต่อ สำหรับอุปกรณ์แก็ดเจ็ดต่างๆ แบบไร้สาย เช่น ลำโพงไร้สาย ควรปิดทันทีเมื่อเลิกใช้ ไม่เสียบปลั๊กทิ้งไว้ จำขึ้นใจว่าเมื่อใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไร้สายต่างๆ แม้ว่าจะไม่มีการเชื่อมต่อก็ยังคงมีการทำงานอยู่ และใช้กระแสไฟฟ้าในการหล่อเลี้ยงระบบ ดังนั้นอุปกรณ์ไหนที่ไม่จำเป็น ก็ควรปิดเครื่องและถอดปลั๊กทันที เพื่อช่วยประหยัดไฟฟ้า หรืออย่างการใช้หูฟังก็ควรเลือกหูฟังแบบมีสาย เพราะใช้กระแสไฟฟ้าน้อยกว่าหูฟังไร้สาย เป็นต้น 5.

  1. For the emperor 2014 ซับ ไทย ep1
  2. วิธี การ ประหยัด ไฟฟ้า ใน บ้าน tiktok
  3. Mirai of the future พากย์ ไทย online
  4. ส่องไลน์อัพ 11 ตัวจริง บาร์เซโลนา ฤดูกาลหน้า หากได้ครบ 4 แข้งใหม่
  5. ผมบ๊อบ หน้า สั้น หลัง ยาว
  6. วิธีการอนุรักษ์พลังงาน - วิชา พลังงานและสิ่งแวดล้อม
  7. ผล ฮานอย 8 12.12.2012
  8. กรง กรรม ep 12 9 9/8
  9. 9 วิธีประหยัดไฟที่บ้าน ทำได้เลยทันที | homify

8 วิธีประหยัดพลังงานในบ้านคุณ - YouTube

ชวนรู้วิธีประหยัดไฟส่งตรงจาก "การไฟฟ้า" ที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ โดยเฉพาะช่วงที่หลายคนกักตัวอยู่บ้านและต้อง Work From Home เป็นหลัก ช่วงนี้ได้ยินหลายคนบ่นกันเยอะว่า "ค่าไฟแพง" และพยายามเดากันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่ามิเตอร์ไฟมีบางอย่างผิดปกติ บ้างก็ว่าการไฟฟ้าคิดค่าไฟแพงผิดปกติ แต่เดี๋ยวก่อน.. ที่คิดๆ กันไปนั้น ไม่เป็นความจริง! โดยทางการไฟฟ้าก็ออกมายืนยันแล้วว่า สาเหตุที่ทำให้ค่าไฟแพงเป็นเพราะคนไทยส่วนใหญ่ใช้ไฟฟ้าในหน้าร้อนในปริมาณมากกว่าปกติ อีกทั้งการ "คิดค่าไฟ" ก็เป็นการคิดในอัตราก้าวหน้า คือเพิ่มราคาขึ้นเป็นขั้นบันไดยิ่งใช้ไฟมากก็ยิ่งเสียค่าไฟแพงแบบก้าวกระโดด อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: ทำไม 'ค่าไฟ' แพง? เปิดวิธีคำนวณพร้อมดูอัตรา 'ค่าไฟฟ้า' ในบ้าน รู้ไหม! บิล 'ค่าไฟฟ้า' บอกอะไรเราบ้าง 'กฟภ. ' แจ้งวิธีการจ่าย 'ค่าไฟฟ้า' เดือนเมษายน ต้องทำอย่างไรบ้าง เอาเป็นว่าเมื่อรู้เหตุผลที่แท้จริงกันแล้วว่าทำไมค่าไฟแพง สิ่งที่ต้องรู้ต่อไปคือ แล้วทำยังไงถึงจะช่วยประหยัดค่าไฟในช่วงนี้ได้บ้าง ยิ่งหลายคนต้อง Work From Home ในช่วงอยู่บ้านป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ยิ่งมีการใช้ไฟฟ้าในบ้านมากขึ้นกว่าเดิม งั้นลองมาดูวิธีประหยัดไฟฟ้าที่แนะนำโดย "การไฟฟ้า" กันหน่อยดีกว่า ว่ามีวิธีการไหนที่จะช่วยให้เราประหยัดค่าไฟได้บ้าง?

ตั้งค่าโน้ตบุ๊กเป็น Sleep Mode เมื่อไม่ได้ใช้งาน ในช่วงที่เปลี่ยนไปทำกิจกรรมอื่น หรือไม่ได้ใช้โน้ตบุ๊กในการทำงาน ทว่ายังคงปิดไม่ได้ ต้องเปิดเอาไว้อยู่ ขอแนะนำให้ปรับการตั้งค่าเป็น Sleep Mode หรือโหมดประหยัดพลังงาน ไม่เช่นนั้นก็อาจจะปรับแสงหน้าจอไม่ให้สว่างเกินไป เพื่อเป็นการเซฟไฟและเซฟแบตเตอรี่ไปในตัวนั่นเอง 4. ใส่หูฟังเมื่อฟังเพลง การฟังเพลงก็มีผลกระทบต่อการประหยัดพลังงานเช่นเดียวกัน เนื่องจากการใช้หูฟังช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าไม่ใช้ อย่างไรก็ตาม ทางที่ดีควรเลือกใช้เป็นหูฟังแบบมีสาย เพราะเมื่อเทียบกับหูฟังแบบไร้สายแล้ว จะใช้กระแสไฟฟ้าน้อยกว่า แถมยังมีคุณภาพเสียงดีกว่าอีกด้วย 5. ปิดเครื่องและถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้งาน ถึงแม้จะไม่ได้เชื่อมต่อหรือใช้งานอุปกรณ์แก็ดเจ็ต อุปกรณ์ไร้สาย รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ แล้ว แต่ถ้าหากยังคงเสียบปลั๊กไว้ เครื่องก็จะมีการทำงานและมีกระแสไฟฟ้าไหลเวียนอยู่ ฉะนั้นถ้าหากใครอยากประหยัดพลังงานและลดการใช้ไฟฟ้าละก็ ต้องปิดเครื่องและถอดปลั๊กหลังจากเลิกใช้งานทุกครั้งในทันที 6. กำหนดเวลาเปิด-ปิดแอร์ หลังจากเลือกมุมทำงานได้เรียบร้อยแล้ว ให้กำหนดระยะเวลาการใช้ไฟฟ้าอย่างชัดเจน เหมือนกับตอนทำงานที่ทำงาน เช่น เปิดแอร์และเปิดไฟเวลา 09.

ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น แล้วใช้แสงสว่างจากธรรมชาติแทน 2. ใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน เช่น หลอดไฟฟลูออเรสเซนส์ชนิดผอม 3. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดหลังเลิกใช้งานและถอดปลั๊กออกทุกครั้ง 4. เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีสัญลักษณ์ประหยัดไฟเบอร์ 5 5. ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศอยู่ที่ 25-26 องศา และปิดแอร์ก่อนเลิกใช้งาน 30 นาที เพราะความเย็นจะยังคงอยู่ 6. การวางตำแหน่งของตู้เย็นควรตั้งให้ห่างจากผนังด้านหลังและด้านข้างไม่น้อยกว่า 15 เซนติเมตร ไม่เปิดตู้เย็นบ่อย และไม่เปิดทิ้งไว้นาน อย่านำของร้อนแช่ตู้เย็น เพราะจะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้น 7. เลือกใช้ขนาดของโทรทัศน์ที่เหมาะสมกับเนื้อที่ จำนวนสมาชิก ขนาดห้อง เพราะขนาดโทรทัศน์ยิ่งใหญ่ก็จะใช้กำลังไฟมากขึ้นเท่านั้น และไม่เสียบปลั๊กโทรทัศน์ทิ้งไว้ในโหมดสแตนด์บาย 8. การรีดผ้าควรตั้งอุณหภูมิความร้อนให้เหมาะสมกับชนิดของเนื้อผ้า และการรีดผ้าในแต่ละครั้งควรรีดครั้งละมากๆ โดยเริ่มจากผ้าบางไปหาผ้าหนา และควรถอดปลั๊กก่อนรีดเสร็จสัก 2-3 นาที เนื่องจากความร้อนจะยังคงอยู่ เป็นวิธีง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถประหยัดไฟฟ้าที่บ้านแล้วยังประหยัดเม็ดเงินในกระเป๋า แถมช่วยชาติลดการใช้พลังงานได้ด้วย วิธีประหยัดไฟฟ้าจากตู้เย็น 1.

9 วิธีประหยัดไฟที่บ้าน ทำได้เลยทันที | homify

8 วิธีประหยัดพลังงานในบ้านคุณ - YouTube

ไม่เสียบหม้อหุงข้าวไว้ตลอดเวลา การเสียบปลั๊ก หม้อหุงข้าว ทิ้งไว้ตลอดเวลาทำให้เปลืองไฟเป็นอย่างมาก เพราะระบบไฟฟ้าจะทำงานตลอดเวลานั่นเอง หากใช้งานเสร็จควรถอดปลั๊ก เพื่อเป็นการประหยัดพลังงานไฟฟ้านั่นเอง 9. ใช้มู่ลี่หรือกันสาดป้องกันแดด การใช้ มู่ลี่ กันแสงจะช่วยให้เครื่องปรับอากาศไม่ทำงานหนักเกินไป เป็นการป้องกันแสงแดดส่องกระทบตัวอาคาร หรือใช้การบุฉนวนความร้อนที่ผนังก็ช่วยได้มาก 10. วางตู้เย็นในตำแหน่งให้เหมาะสม ควรวางตำแหน่งของตู้เย็นให้ห่างจากผนังด้านหลังและด้านข้างไม่น้อยกว่า 10 ซ. ม เพื่อให้ระบายความร้อนได้ดี และ เลือกยี่ห้อตู้เย็น ยี่ห้อที่ประหยัดไฟ ที่สำคัญไม่ควรเปิด ตู้เย็น บ่อยเพราะจะทำให้เปลืองไฟ 11. เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสม ควรเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าเหมาะสมกับขนาดห้อง จำนวนสมาชิกในบ้าน เช่นการใช้ TV หากเป็นจอใหญ่ก็จะกินไฟมากกว่า และไม่ควรเสียบปลั๊กทิ้งไว้ในโหมด Stanby 12. ปลูกต้นไม้รอบบ้าน หรือปลูกพืชคลุมดิน เพราะต้นไม้หรือพืชคลุมดินจะช่วยฟอกอากาศได้เป็นอย่างดี จะช่วยให้บ้านเย็นขึ้น หรือใครอยู่คอนโดก็สามารถหาต้นไม้ฟอกอากาศมาแทนได้ หรือใครอยากกรองแสงไม่ให้แดดเข้าบ้านสามารถเลือกติด ฟิล์มติดกระจกบ้าน และนี่ก็เป็น 12 วิธีประหยัดไฟฟ้า แบบชาญฉลาดที่คุณสามารถเริ่มต้นทำเองได้แบบไม่ต้องรอ จะช่วยลดค่าไฟ และเป็นการประหยัดพลังงานไฟฟ้าให้เรามีพลังงานไฟฟ้าใช้ไปอีกนาน

เลี่ยงการอบผ้า ในวันที่แดดจัด อากาศก็ร้อน หรือในช่วงหน้าหนาวที่อากาศแห้ง ๆ แบบนี้ เราไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องอบผ้าให้เปลืองไฟเลยด้วยซ้ำ เพียงแค่ซักผ้าตามระบบปกติ แล้วนำผ้าไปตากให้ที่แจ้ง ให้แดดและลมทำหน้าที่ดูดซับความชื้นจากเสื้อผ้าออกไปจนแห้งสนิทก็พอแล้ว 9. เลือกใช้หลอดประหยัดไฟ หากในบ้านของคุณยังคงใช้หลอดไฟแบบธรรมดา ไม่ได้มีฉลากประหยัดไฟ คงต้องลงทุนเปลี่ยนหลอดไฟเป็นแบบฟลูออร์เรสเซ้นส์แล้วล่ะ เพราะหลอดไฟแบบประหยัดไฟ ให้แสงสว่างพอ ๆ กับหลอดไฟธรรมดา แต่ไม่ทำให้เปลืองไฟนะจ๊ะ 10.